การจองเป็นการรวบรวมสิ่งที่เกี่ยวข้อง (จำนวนที่นั่ง + ผู้เดินทาง ) ไว้ด้วยกันโดยได้สิทธิ์ครอบครองเพียงชั่วคราว
-จองเที่ยวบินนำไปประเมินราคา ไม่ต้องใช้ชื่อผู้เดินทาง
-จองเที่ยวบินนำไปผลิตใบจอง ต้องใช้ชื่อผู้เดินทาง เที่ยวบิน
-จองเที่ยวบินนำไปผลิตตั๋ว ต้องใช้ชื่อผู้เดินทาง เที่ยวบิน และการชำระค่าโดยสาร
ปรกติกรณีไม่มีค่าใช้จ่าย ทำได้สิทธิ์ครอบครองเกิดจาก crash & cookie ของระบบคอม ได้ 30นาที -12 ชั่วโมง ยกเว้นกรณีผลิตตั๋วโดยสาร
การจองแบบส่งผลระหว่างสายการบินผู้บริการโดยไม่ผลิตตั๋วโดยสาร ต้องเสียค่าเทคโลยี ต่อการจองเดียวสูงสุดไม่เกิน 8 คน โดยมีค่าใช้จาย ฿800 กรณีนี้ก่อให้เกิดการจองจริงและออกเอกสารการจองได้ ทะว่าจะเสียสิทธิการประกันที่นั่งและราคาไป ทั้งนี้กำหนดการเรื่องราคาและที่นั่งจะถูกกำหนดใหม่โดยสายกรบินผู้ให้บริการ (ค่าใช้จ่ายส่วนนี้นำมาหักค่าตั๋วได้ภายใน 30 วัน )่ ( ทำผ่านพนักงาน )
การจองแบบส่งผลระหว่างสายการบินผู้บริการพร้อมการออกเอกสารสิทธิการเดินทาง หรือตั๋ว เมื่อจ่ายเต็มจำนวนเท่านั้น
การแจ้งชื่อ เนื่องจากพาสปอร์ตม่ความหลากหลาย แตกต่างกันแต่ละประเทศ จึงยากที่จะจดจำ แต่คิดมั๊ยครับว่า พนักงานสายการบินหรือ ตรวจคนเข้าเมืองเขาแยกแยะชื่อ สกุลได้อย่างไร ท่ามกลางความแตกต่างของพาสปอร์ตทุกประเทศ คุณทราบมั๊ยครับว่ามันมีสิ่งที่เหมือนกันซึ่งถูกใช้เป้นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลกในการแยกแยะ สัญชาติ หมายเลขพาส ชื่อ และ สกุล โดยที่ สีแดงคือเกี่ยวกับชื่อ และสีน้ำเงินคือส่วนอื่นๆ

กรณีผู้เดินทางมีชือหรือสกุลเดียว ให้พิมพ์ ชื่อและนามสกุลเหมือนกันทั้งสองช่อง เช่น MR FU ( surname ) เป็น FU/FU หรือ MR FU ( name ) ก็เป็น FU/FU เช่นกัน Titel MR ไม่ใช่ชื่อ ไม่จำเป็นต้องใส่ เส้นแต่มีให้เลือก Title ต่างหาก. กรณีผู้เดินทางมีนามสกุลอักษรเดียวให้พิมพ์นามสกุลเป็น 2 อักษร MR Fu F เป็น FF/FU เป็นต้น
กรณี ชื่อมีอักษรเดียว ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม เช่น MR F FU เป็น FU/F กรณีชื่อยามไม่มีความจำเป็นต้องใส่เต็ม ใส่ตัสแรกก็เพียงพอ เช่น MR ABCDEFGH FU เป็น FU/A ส่วนกรณีชื่อซ้ำกั หรือต้องการใส่เต็ม ให้แจ้งช่องทางการแจ้งพาสปอร์ตแทนซึ่งใส่ได้ยาวกว่ามาก และเป็นตัวบ่งชี้ว่า ชื่อย่อนั้น มีชื่อเต็มว่าอย่างไร
การจองจะสมบูรณ์แบบได้นั้นก็ต่อเมื่อที่นั่งนั้นให้แสดงกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของด้วยชื่อผู้เดินทาง
ชื่อผู้อื่น ชื่อที่ผิดจนอาจกล่นเป็นบุคคลอื่นได้ ส่งผลให้การจองนั้นใใช้กับผู้เดินทางที่แท้จริงไม่ได้
ทางสายการบินไม่มีนโยบายเปลี่ยนผู้เดินทาง หากแต่การแก้ไขเพื่อความถูกต้องข้องชื่อนั้น อาจทำได้เมื่อดูแล้วเป็นคนเดียวกัน และจะถูกปฏิเสธหากดูแล้วราวกับเป็นคนละคน ทางออกกรณีไม่ได้รับอนุญาติให้แก้ไข คือการทำเงินคืนเท่านั้น ( เฉพาะกรณีที่ทำได้ )